logo
ไขข้อข้องใจความเชื่อโบราณ ทำไมถึงห้ามทำ ?

ไขข้อข้องใจความเชื่อโบราณ ทำไมถึงห้ามทำ ?

31 พฤษภาคม 2566 24,579 view

” จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้าน ” หนึ่งในความเชื่อโบรารณที่มีการบอกต่อกันมา ไม่รู้ว่าใครเป็นคนริเริ่ม ความเชื่อโบราณเหล่านี้มีข้อปฏิบัติหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นการห้ามไม่ให้ทำนั่นทำนี่

ความเชื่อเหล่านี้ล้วนมีเหตุผลรองรับ ด้วยนิสัยของคนโบราณที่มักจะไม่บอกตรงๆ จึงนำความเชื่อมาผนวกเป็นกุศโลบายข้อห้ามเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ อันตราย หรือป้องปรามไม่ให้เด็กๆ วัยรุ่นซุกซนเกินไป

ความเชื่อเหล่านี้ล้วนมีเหตุผลรองรับ ด้วยนิสัยของคนโบราณที่มักจะไม่บอกตรงๆ จึงนำความเชื่อมาผนวกเป็นกุศโลบายข้อห้ามเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ อันตราย หรือป้องปรามไม่ให้เด็กๆ วัยรุ่นซุกซนเกินไป

วันนี้ทีมงาน Melonthai จะมาไขข้อข้องใจถึงความเชื่อเหล่านี้ว่าแท้จริงแล้วสารที่คนโบราณต้องการบอกกับเราคืออะไร ?

1.) จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้าน
ความเชื่อคือ หากจิ้งจกร้องทักจากด้านหลัง หรือตรงศรีษะ ให้เลื่อนการเดินทางออกไป บ้างก็ว่าหากตุ๊กแกร้องทักก่อนออกจากบ้านก็ให้เลื่อนการเดินทางออกไป เพราะเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างเดินทาง

นี่คือส่วนของความเชื่อแต่เหตุผลที่รองรับเรื่องนี้คือ ปกติจิ้งจก ตุ๊กแกมักหากินเวลากลางคืน และอาหารอันโอชะของจิ้งจก ตุ๊กแกก็คือแมลง (โดยเฉพาะแมลงเม่า) ซึ่งแมลงเม่าจะไวต่อสภาพอาการศและความชื้น หากพบแมลงเม่าบินตอนกลางวัน

2.) ห้ามตัดผมวันพุธ
ความเชื่อคือการตัดผมวันพุธ ไม่ดี เป็นกาลกิณี มีผู้คนจำนวนหนึ่งบอกต่อกันทางอินเตอร์เน็ตว่าเหตุที่ห้ามตัดผมวันพุธเพราะพระเจ้าแผ่นดินตัดผมวันพุธ ประชาชนสมัยก่อนไม่ต้องการตีตนเสมอเจ้านายจึงห้ามตัดผมวันพุธ ซึ่งไม่รู้เอาความเชื่อนี้มาจากไหนเพราะเมื่อสืบหาข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ ท่านก็ว่าพระเจ้าแผ่นดินท่านไม่มีวันประจำในการตัดผม

ความเชื่อนี้น่าจะมาจากตำราตำราพรหมชาติที่กล่าวถึงการตัดผมวันพุธว่าไม่เป็นมงคล วันพุธเป็นวันแห่งการเพราะปลูก ไม่ควรตัดอะไรวันนี้ เมื่อเชื่อต่อกันอย่างนี้ร้านตัดผมจึงหยุดวันพุธ

เรื่องนี้จึงเป็นเหตุและผลระหว่างกัน คือ คนไม่นิยมตัดผมวันพุธ ร้านตัดผมจึงหยุดวันพุธ (ปัจจุบันความเชื่อนี้น้อยลง เราจึงเห็นคนตัดผมวันพุธและร้านตัดผมก็เปิดวันพุธแล้ว) ส่วนนี้มีรากฐานมาจากความเชื่อตามตำราพรหมชาติ แต่นำมาอธิบายเพราะหลายคนเข้าใจผิดว่าเพราะคนโบราณไม่ตัดผมวันพุธเพราะตรงกับวันตัดผมของพระเจ้าแผ่นดินซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด

อ้างอิงเรื่องความเข้าใจผิดว่าพระเจ้าแผ่นดินตัดผมวันพุธจาก เว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม

3.) ห้ามหวีผมกลางคืน
ความเชื่อคือการหวีผมกลางคืนถือเป็นการสาปแช่ง ปู่ ย่า ตา ยาย แต่จริงๆแล้วเรื่องนี้คือกุศโลบายที่คนโบราณใช้ห้ามปรามสาวๆไม่ให้ออกเที่ยวเวลากลางคืน เพราะก่อนออกจากบ้านต้องหวีผม แต่งสวย พอห้ามไม่ให้หวีผมก็ไม่อยากออกจากบ้านไปเจอใคร

4.) ห้ามร้องเพลงในครัว
ร้องเพลงในครัวจะได้ผัวแก่ เป็นคำที่บอกต่อกันมา แท้จริงคือในครัวต้องทำอาหาร การร้องเพลงอาจทำให้น้ำลายหก หรือกระเด็นใส่อาหารได้

5.) ห้ามตัดเล็บกลางคืน
เพราะสมัยก่อนการตัดเล็บต้องใช้มีดหรือกรรไกรเล็ม การตัดเล็บเวลากลางคืนที่แสงสว่างน้อยจึงอันตรายมาก อาจเกิดอุบัติเหตุและบาดแผลจากการตัดเล็บได้

6.) ห้ามชี้รุ้ง
ข้อสังเกตของความเชื่อนี้คือ ผู้ใหญ่มักบอกเด็กๆเวลาเห็นรุ้ง นั่นก็เพราะการชี้รุ้งอาจทำให้นิ้วไปโดนคนอื่นหรือจิ้มตาเด็กด้วยกันเอง เพราะเด็กๆเวลาเห็นรุ้งมักจะตื่นเต้นและชูนิ้วขึ้นชี้ให้คนอื่นดูอย่างรวดเร็ว อาจไม่ระมัดระวังทำให้ไปจิ้มตาคนที่อยู่ใกล้ได้

7.) ตัวเงินตัวทองเข้าบ้าน ให้คิดดี พูดดี จะมีโชคลาภ
ถ้าไม่มีความเชื่อนี้ มนุษย์อาจทำร้ายตัวเงินตัวทอง ทั้งที่จริงแล้วตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์ที่รักสงบ เป็นสัตว์ที่อยู่ในที่ที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เป็นตัวช่วยทำความสะอาดให้ระบบนิเวศน์เพราะทานซากสัตว์ที่ตายแล้ว ทานเศษขยะ เศษอาหาร ช่วยไม่ให้เกิดการเหม็นเน่า และยังช่วยควบคุมประชากรของ หนู พิราบ หรือไข่งูพิษ

8.) กลับจากงานศพให้ล้างหน้า ล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน
สมัยโบราณการเสียชีวิตอาจมีหลายสาเหตุและหนึ่งในนั้นคือการเสียชีวิตจากเชื้อโรค และการจัดการศพสมัยก่อนไม่ได้มีขั้นตอนที่ป้องกันโรคระบาดได้ดีนัก จึงให้ล้างหน้า ล้างเท้าและทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าบ้าน อีกข้อที่น่าจะเป็นเหตุผลรองรับคือ งานศพคืองานไม่เป็นมงคล ผู้ที่ไปร่วมงานอาจใจเสีย ร้องไห้ การล้างหน้าล้างตาจะช่วยให้สดชื่น การล้างหน้าช่วยล้างคราบน้ำตาและลดความโศกเศร้าได้ระยะเวลาหนึ่ง

หน้าแรก

หมวดสินค้า

บัญชี

เพิ่มเติม