” ว่ากันว่าหากเทคโนโลยี 6G สำเร็จจะสามารถทำความเร็วในการเชื่อมต่อได้มากกว่า 5G ถึง 8,000 เท่า หรือสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 1TB ต่อวินาทีเลยทีเดียว “

เทคโนโลยี 6G ถูกพูดถึงอย่างมากหลังการมาของ 5G หาก 5G เกิดมาเพื่อรองรับยุค internet of things ( IOT ) หรือยุคที่เราสามารถสั่งการอุปกรณ์ต่างๆในบ้านผ่านมือถือไม่ว่าจะอยู่ที่ใดบนโลก เทคโนโลยี 6G ก็ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับยุคปัญญาประดิษฐ์ ( AI ) หรือไปไกลกว่านั้นด้วยการสั่งการทุกอย่างผ่านสมอง หรือ brain-computer interfaces

หากทำได้จริงจะเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมการสื่อสารให้เติบโตแบบก้าวกระโดด คาดการณ์กันว่าเทคโนโลยี 6G จะเริ่มใช้งานก่อนปี 2030 (ประมาณปี พ.ศ.2573) โดยสามารถรับส่งข้อมูลระดับ 1TBต่อวินาที รองรับการใช้งาน 5แสนล้านเครื่อง ครอบคลุมประชากร 7 พันล้านคนทั่วโลก

หมายเหตุ : 1TB = 1,000GB

สิ่งที่จะเปลี่ยนไปหลังการมาของ 6G ในอุตสาหกรรมมือถือ

หาก 5G ทำให้เกิดการใช้งานที่สามารถโหลดข้อมูลด้วยความเร็วสูงระดับกิกาบิตต่อวินาที (Gbps) , เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากในพื้นที่เดียวกัน การส่งข้อมูลมีความเถียร มีความหน่วงเวลาต่ำ (Latency) ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การผ่าตัดระยะไกล , การควบคุมอุปกรณ์ต่างๆผ่านมือถือหรือแอปพลิเคชั่น ( IOT)

เทคโนโลยี 6G จะทำให้เกิดการพัฒนาการสื่อสารผ่านภาพ , เสียง และ ปัญญาประดิษฐ์ โดยเข้าสู่ยุค ” XR Extended Reality ” หรือเทคโนโลยีเสมือนจริงผ่านการรับรู้ทางกล้อง VR และอุปกรณ์อื่นๆที่จะเพิ่มความรู้สึกเหมือนจริงในโลกจำลองผ่าน รูป เสียง สัมผัส , การส่งโฮโลแกรม ( ภาพ 3 มิติลอยตัวรอบด้านแบบเสมือนจริง ) รวมถึงการพัฒนาอุปกรณ์ผ่านแอปพลิชั่นให้สามารถประมวลผลและเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อประกอบการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ

อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ เราจะมีแอปพลิเคชั่นที่ฉลาดในระดับที่สามารถเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผลได้ด้วยตนเอง

สิ่งที่ยังเป็นอุปสรรคในการพัฒนา 6G คือปัญหาเรื่องย่านความถี่ที่ปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการรองรับการใช้งานทั่วโลก จำเป็นต้องเพิ่มเติมย่านความถี่ระดับกลาง (Mid Band) ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายประเทศทั่วโลก

จากข้อมูลล่าสุด ( ก.ค.65 ) ทีมวิจัยของสถาบัน Purple Mountain Laboratories ที่ได้การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ประสบความสำเร็จในการส่งสัญญาณ 6G ด้วยความเร็ว 206.25 Gbps ได้เป็นครั้งแรก โดยสามารถสตรีมวีดีโอสดความละเอียดสูงได้มากกว่าหมื่นรายการพร้อมกัน

เป็นการสตรีมข้อมูล 1TB ระยะทาง 3,300 ฟุต ภายในเวลาไม่กี่วินาที นับเป็นการปฎิวัติวงการสื่อสารและจะเกิดนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นอีกมากมาย คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นกับเทคโนโลยี 6G อีกบ้าง เราจะได้ใช้ 6G ในปี 2030 ตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่? ถ้าเป็นแบบนั้นเราคงได้ใช้อุปกรณ์ต่างๆในการสื่อสารและอำนวยความสบายมากขึ้น ติดตามกันต่อไปครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *